Samsung Galaxy Note 3 เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นต่อยอดที่ผมว่าทำมาถูกทางมากครับ สิ่งที่พัฒนาขึ้นนั้นต้องเรียกได้ว่าพัฒนาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบตระกูล Galaxy Note อย่างแท้จริง เพราะฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน S Pen นั้นได้ถูกปรับปรุงมาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและเท่ขึ้นมากๆ นอกจากนี้ยังพัฒนาเรื่องรูปร่างหน้าตาที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงๆครับ บางคนอาจจะบอกว่าไม่เห็นต่างจากของเดิมเลยแค่หน้าจอใหญ่ขึ้น และเปลี่ยนแปลงรูปร่างกับผิววัสดุ (เออ….ที่ว่ามานี่เปลี่ยนโคตรเยอะเลยนะ5555) แต่จริงๆผมมองว่าทุกการเปลี่ยนแปลงบน Samsung Galaxy Note 3 ล้วนพัฒนาขึ้นโดยมองการใช้งานเป็นที่ตั้งจริงๆครับ
สามารถไปอ่านพรีวิว Samsung Galaxy Note 3 ได้ที่นี่ครับ
อย่างรูปทรงที่ดูเหลี่ยมขึ้นคล้านสมัย Samsung Galaxy S2 นั้นก็ยิ่งทำให้ดูเหมือนสมุดโน๊ต และสันตัวเครื่องที่มีลายแบบสันหนังสือก็ช่วยให้ไม่ลื่นมือ และดูหรูหรามากขึ้น และที่ผมชอบมากปนแอบเสียใจคือฝาหลังที่มีลักษณะคล้ายวัสดุหนัง แต่จริงเป็นพลาสติคอัดลายหนังและเคลือบผิวให้มีลักษณะหนืดๆดูเหมือนหนังจริงๆ และสีดำจะหนืดกว่าสีขาวนะครับ (เพื่อให้สีขาวไม่สกปรกได้ง่าย) ซึ่งพอเป็นวัสดุแบบนี้แล้วมันจะทนทานกว่าการใช้หนังจริงๆ แต่ก็ดูหรูหราน้อยกว่าที่คาดหวังนะครับ ผมเลยแอบเสียดายอ่ะ ซึ่งพอฝาหลังมีลักษณะนี้ทำให้เวลาเขียนข้อความหรือวาดรูปมันทำได้ดีกว่าเดิมครับ เพราะมันดูดติดมือดีไม่ลื่น (ส่วนตัวผมชอบวาดรูปเล่นนะเลยชักจะติดใจแหะ)
สามารถไปอ่านรีวิว Samsung Galaxy Gear มันคือ Smart Watch ที่อัดฟังก์ชั่นมามากที่สุดของวันนี้ได้ที่นี่ครับ
และหน้าจอที่ใหญ่กว่าเดิมขนาด 5.7 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (386 ppi) แม้จะใหญ่ขึ้นแต่ขนาดตัวเครื่องกลับไม่ต่างจากเดิมมากเพราะ Samsung สามารถทำขอบจอได้บางมากครับซึ่งมันเจ๋งมาตั้งแต่ตอน Galaxy S4 แล้วหน้าจอของ Galaxy Note 3 ยังคงใช้หน้าจอแบบ Pentile นะฮะแต่อย่างในพรีวิวครับผมว่าสวยมากๆเลย ละเอียดเนียนตาดีมาก และมีมุมมองที่กว้าง
และที่ผมชอบมากคือ S Pen มันตรงจอดีครับอย่างรุ่นก่อนอาจจะเยื้องนิดๆแต่ใน Note 3 ผมว่ามันตรงจุดมากขึ้นและพัฒนาให้สามารถใช้ S Pen แตะที่ปุ่ม Menu และ Back ได้แล้วและพัฒนาใช้งาน Handwriting to Text ภาษาไทยยาวๆแบบเป็นประโยคได้แล้วเหมือนใน Galaxy Note 8.0
ส่วนมาม่าเรื่องชิป Exynos 5420 Octa Core ก็คงต้องมาม่ากันต่อไป5555 แนะนำนะครับว่าให้ซื้อในสิ่งที่ตัวเองพอใจฮะ ถ้าไม่ปลื้มเรื่องนี้แนะนำซื้อเครื่องหิ้ว ไม่ก็รอดูทาง Samsung ครับเพราะในงานรอบ Blogger และสื่อมวลชนที่ผมไปร่วมงานมาเห็นว่าทาง Samsung กำลังพิจารณาอยู่นะครับ^__^
จุดเด่นที่น่าสนใจของเจ้า Samsung Galaxy Note 3 คือเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของโลกที่ใช้ USB 3.0 (MHL 2.0) ด้วยนะครับเท่ไปเลย ทำให้การเชื่อมต่อกับ Notebook โอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วมากขึ้นครับ
Samsung Galaxy Note 3 มาพร้อม Android 4.3 Jelly Bean ครอบทับด้วย Touch Wiz Nature UX v2.0 การใช้งานทั่วๆไปก็จะคล้ายๆ Samsung Galaxy S4 นะครับลูกเล่นปลดล็อคหน้าจอจะมีมาให้ 2 แบบคือแบบสีน้ำและวงคลื่น จะไม่มีแบบประกายแสงเหมือน Galaxy S4 (ยังใส่ข้อความส่วนตัวได้นะฮะ แต่จะซ่อนใว้ในการตั้งค่า)
สำหรับ Samsung Galaxy Note 3 จะมีแจ้งเตือนเวลาเราลืม S Pen และตั้งค่าเวลาเราชักปากกาออกได้เหมือน Galaxy Note 2 แต่จะเจ๋งขึ้นโดยเพิ่ม Air Command สุดหล่อและมีโหมดใช้งานมือเดียวได้อย่างละเอียดมาก ซึ่งเหมาะมากครับกับมือถือหน้าจอใหญ่ขนาดนี้
และจัดเต็มระบบ Motion Control เก๋ๆมาแบบ Galaxy S4 เลยครับมีทั้ง Air Gesture การดูข้อมูลแบบฉับใว โดยวางเครื่องบนโต๊ะแล้ววางมือเหนือตัวเครื่องเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และสามารถโบกมือเพื่อเลื่อนหน้าเวบเพจ หรือตอนดูรูปและรับสายได้อีกด้วย ทำเล่นไปผมใช้บ่อยนะตอนมือมันๆเพราะกินขนมอ่ะ^^ ตอนใช้ Galaxy S4 ผมใช้บ่อยเลย
Air View เทพนะครับมีให้เลือกทั้งใช้ S Pen และนิ้วหรือจะเลือกใให้ใช้งานได้ทั้งคู่พร้อมกันก้ได้ด้วย (ถ้าเอา S Pen ไปจ่อ S4 มันจะแสดงผลไหมหว่า?)
และมาพร้อม Smart Screen ซึ่งรวมฟังก์ชั่น Smart Stay หน้าจอจะไม่ปิดตราบเท่าที่เรามองอยู่ (ต้องใช้ในสถานที่แสงเพียงพอด้วยนะครับ), Smart Rotation หน้าจอจะหมุนตามทิศของใบหน้า (จากใจมีไปทำไม….), Smart Pause วีดีโอที่เราเล่นอยู่จะหยุดเมื่อเราละสายตาจากหน้าจอ ผมว่ามันก็ดีนะแต่แอบน่ารำคาญแหะ, Smart Scroll โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเลื่อนหน้าจอโดยการเอียงหัวหรือจะเลื่อนโดยการเอียงตัวเครื่อง และสามารถปรับความเร็วในการเลือนหน้าจอได้ด้วย ซึ่งผมว่าใช้ยากแหะเอามือเลื่อนสะดวกกว่า^__^
ฟังก์ชั่นเด่นใน Galaxy Note 3 นั่นก็คือ Air Command จะทำงานโดยเราเอาปากกา S Pen ไปจ่อใว้ที่หน้าจอแล้วกดปุ่มที่ข้างปากกา หรือตั้งให้ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเราชัก S Pen ออกมาเลยก็ได้ โดยจะประกอบด้วย
Action Memo เป็นฟังก์ชั่นที่น่าสนใจครับ โดยจะแปลงข้อความหรือเบอร์โทรศัพท์ที่เราเขียนด้วยลายมือไปใช้งานในคำสั่งต่างๆได้เช่นบันทึกเบอร์โทร หรือสั่งโทรออก ส่งข้อความเป็นต้นหรือเขียนประโยคยาวๆเป็นที่อยู่แล้วสั่งค้นหาใน Google Maps ก็สามารถทำได้สบายๆครับ ความแม่นยำทำได้ดีมากครับ ขนาดลายมือผมแย่นะเนี่ย
Scrapbooker คือการรวบรวมสิ่งที่เราสนใจมาเก็บเอาใว้รวมๆกัน โดยทำได้ง่ายๆเพียงวงกลมในสิ่งที่เราสนใจมันก็จะคัดลอกมาที่ Scrapbooker และภาพที่เราคัดลอกมายังฝัง Link ไปยังต้นฉบับได้อีกด้วยว่าเราเอามาจากที่ไหน โดยสามารถคัดลอกมาได้ทั้งภาพและข้อความเลยครับ นอกจากนี้ยังใช้ได้กับ Youtube ด้วยนะครับ และเราสามารถเขียนข้อความกันลืมแนบใว้ใน Scrapbooker ได้ด้วยนะให้อารมณ์สมุดโน๊ตจริงๆ
Screen Write ก็คือคำสั่งจับภาพหน้าจอ แล้วเขียนข้อความเก็บใว้ใช้งานภายหลัง หรือจะวาดรูปแต่งรูปตามใจชอบด้วยความสามารถของ S Pen ก็ได้
S Finder คือคำสั่งค้นหาโดยสามารถหาข้อมูลได้จากทั้งในตัวเครื่อง และจากใน Google โดยสามารถค้นหาได้จากทั้งใน Web History, Contacts, Email, Gallery, Music, Video และค้นหาย้อนหลังได้ด้วยโดยย้อนหลังได้นานสุด 30 วัน
Pen Window มันจะเหมือนร่ายมนต์เรียกหน้าต่างแอพพลิเคชั่นครับ โดยเราแค่ขีดหน้าจอสั้นๆก็สามารถเรียกแอพพลิเคชั่นออกมาแสดงเป็นหน้าต่างเล็กๆที่หน้าจอได้แล้ว โดยมีให้เลือกดังนี้ เครื่องคิดเลข, นาฬิกา, Youtube, โทรศัพท์, รายชื่อ, ChatON, Google Hangout, Browser
S Note ใน Samsung Galaxy Note 3 จริงๆก็คล้ายๆเดิมครับ ผมชอบที่มีฟังก์ชั่นตรวจจับ S Pen ทำให้เวลานิ้วเราไปโดนหน้าจอมันจะไม่จับ ช่วยให้เขียนหน้าจอได้ง่ายดี ที่พัฒนาขึ้นมาก็จะเป็นพวก Template ใหม่ๆแบบสำเร็จรูปมาให้มากขึ้น และหน้าตาการใช้งานสวยงามกว่าเดิม
ที่เจ๋งมากๆคือเจ้า Samsung Galaxy Note 3 มีแถมแอพพลิเคชั่นวาดภาพยอดนิยมอย่าง SketchBook for Galaxy มาให้ใช้ฟรีๆด้วยนะครับ ผมว่าน่าจะถูกใจคนชอบวาดภาพ
ภาพ Jack Skellington จากเรื่อง The Nightmare Before Christmas ครับลองวาดด้วยแอพพลิเคชั่น SketchBook ซักหน่อย^__^
Multi Screen แบ่งการใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกันซึ่งใน Galaxy Note 3 ก็ได้พัฒนาให้สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นเดียวกันทั้ง 2 หน้าจอได้แล้ว ความเร็วในการใช้งานรวดเร็วดีมากครับ ไม่แสดงอาการหน่วงเลย
Browser ใน Samsung Galaxy Note 3 สวยดีนะครับ แสดงผลในส่วนของรวมหน้าที่เปิดใว้ได้เท่มากๆ และการใช้งานลื่นไหลดีมากครับ สามารถเปิดหน้าเวบเพจหลายๆหน้าใว้ได้สบายๆ และด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5.7 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P ผมว่าคมชัดเหมาะกับการอ่านหนังสือมากเลยละครับ^^
เครื่องเล่นเพลงสามารถปรับ EQ แบบสำเร็จรูปและปรับแต่งด้วยตัวเองได้ และมีการปรับปรุงหน้าตาใหม่และมีระบบจำลองเสียง 3D, Bass, Clarity รวมทั้ง Tube Amp Effect เพิ่มขึ้นมาและยังคงมีระบบ Adapt Sound ซึ่งก็คือการปรับจูนเสียงด้วยหูเราเองมาให้เช่นเคย สำหรับคนที่เน้นเรื่องฟังเพลง Samsung Galaxy Note 3 ยังเสียงดีมากเช่นเคยครับใช้ชิบเสียงของ Wolfson เจ้าเก่า น่าเสียดายที่ไม่มีวิทยุมาให้
เครื่องเล่นวีดีโอเล่น Full HD 1080P ไหลลื่นครับและรองรับฟังก์ชั่น Air View และ Popup Play เช่นเคยรวมทั้งมีฟังก์ชั่นตัดต่ออย่างง่ายๆมาให้ในเครื่อง และสามารถโหลดโปรแกรมตัดต่อของ Samsung มาติดตั้งเพิ่มได้อีกด้วย
เรื่องเล่นเกมสำหรับสเปคระดับนี้แน่นอนว่าลื่นมากๆครับ หน้าจอก็ใหญ่เต็มตา
เรื่องกล้องยังจัดเต็มลูกเล่นการถ่ายภาพเพียบครับ และเอฟเฟคภาพก็สามารถเลือกโหลดเพิ่มได้ด้วย (มีตัวเสียเงินด้วยนะ) และโหมดถ่ายภาพครบถ้วนเหมือนใน Galaxy S4 เลยครับและมีเพิ่ม 2 โหมดพิเศษได้แก่โหมดกอล์ฟ สามารถถ่ายภาพเพื่อวัดสวิงของเราได้ด้วย เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเล่นกีฬากอล์ฟมากๆเลย และโหมดถ่ายภาพแบบ 360 องศา (จะเหมือนใน Nexus 4)
คุณภาพของกล้อง Samsung Galaxy Note 3 ผมว่าดีมากนะภาพสวยดูใสๆ สีเป็นธรรมชาติดีครับ และภาพกลางคืนผมว่าน่าประทับใจ
สามารถไปชมตัวอย่างภาพถ่ายและคลิปวีดีโอของ Samsung Galaxy Note 3 เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
และไปชมเปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่าง Samsung Galaxy Note 3 และ LG G2 ได้ที่บทความนี้ครับ
ข้อดีของ Samsung Galaxy Note 3
1. ตัวเครื่องออกแบบได้สวยและเท่ในแนวผู้บริหาร สัมผัสคล้ายหนังช่วยให้ดูภูมิฐานมากๆ
2. หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (386 ppi) คุณภาพดีเยี่ยมสวยงามมาก
3. CPU Exynos 5420 Octa Core 1.9 GHz (A15 1.9 GHz + A7 1.3 GHz), RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ 25.9GB) สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 64GB สเปคนี้แรงเกินพอครับ
4. เป็นโทรศัพท์มือถือที่มี USB 3.0 (MHL 2.0) เครื่องแรก
5. Air Command รวมความสามารถอันโดดเด่นของ Galaxy Note 3 เอาใว้เรียกใช้งานได้อย่างสุดเท่
6. S Pen และคุณภาพแอพที่พัฒนามาให้ใช้งานได้น่าประทับใจกว่าเดิม
7. กล้องความละเอียด 13MP, BSI Sensor, Auto Focus, Zero Shutter Lag บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P และกล้องหน้า 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P มีฟังก์ชั่น Dual Shot และ Dual Recording คุณภาพดีมาก และถ่ายในที่แสงน้อยได้น่าประทับใจ
8. คุณภาพเสียงชั้นยอดด้วยชิปเสียง Wolfson
9. แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh อึดใช้ได้เลยครับครบวันแน่นอน
10. ใช้งานร่วมกับนาฬิกาอัจฉริยะ Samsung Galaxy Gear
ข้อด้อยของ Samsung Galaxy Note 3
1. สเปคในไทยไม่ได้ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 800 ทำให้ไม่รองรับ 4G และบันทึกวีดีโอ 4K ไม่ได้เหมือนรุ่นที่ใช้
2. ฝาหลังไม่ได้ใช้วัสดุหนังอย่างที่คิด (ตอนแรกที่เห็นในงานเปิดตัวผมนึกว่าจะบุด้วยหนังเทียม)
3. ไม่มีวิทยุ
Samsung Galaxy Note 3 ยังคงความน่าประทับใจสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือหน้าจอขนาดใหญ่ และผู้ที่ชื่นชอบความสามารถที่มีเฉพาะในตระกูล Note เท่านั้นอยู่เหมือนเดิมเลยครับ มาคราวนี้อาจจะดูเหมือนปรับปรุงมาไม่มากแต่จริงๆพัฒนามาเยอะมากเลยนะครับ ผมเองก็เป็นแฟนมือถือตระกูลนี้นะเพราะชอบขีดๆเขียนๆจึงชอบ S Pen มากๆและสำหรับเรื่องสเปคที่ใช้ชิปแตกต่างจากเมืองนอก จริงๆสำหรับประเทศไทยก็ใช้ Exynos มาตลอดนะแต่คราวนี้ที่มีมาม่าก็ตรงความสามารถหลายๆจุดดันแตกต่างกัน ซึ่งส่วนตัวผมก็บอกไปตั้งแต่บทความที่แล้วว่าผมก็อยากได้ Snapdragon แต่ก็ไม่มากขนาดที่จะซื้อเครื่องหิ้วหรอกครับ ผมชอบซื้อศูนย์เพราะมันอุ่นใจกว่าในเรื่องหลังการขาย แต่เรื่องนี้มันก็นานาจิตตังครับ เอาเป็นว่า Samsung Galaxy Note 3 ยังคงน่าประทับใจสมเป็นเรือธงและถ้าชอบ S Pen เจ้าหนูนี่คือคำตอบครับผม^__^
[gradeA]